03-11-2022
การซื้อตะแกรงเหล็กไวร์เมชไม่เต็ม ดูเหมือนจะซื้อสินค้าในราคาที่ถูกกว่า เพราะจ่ายเงินบาท/ตร.ม.น้อยกว่า แต่ความเป็นจริงลูกค้า ซื้อของราคาเท่ากัน แต่ได้ตะแกรงเหล็กไวร์น้ำหนักน้อยกว่าปกติมาก เพราะพื้นที่หน้าตัดที่ลดลง และสินค้าที่ได้นั้นจะไม่ได้ตามมาตรฐานที่ถูกต้อง จากตัวอย่างนี้จะเห็นว่า ลวดขนาดต่างกันเพียง 0.3 มม. แต่น้ำหนักน้อยกว่าปกติถึง 9.76 % ซึ่งไม่เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดไว้ ซึ่งส่งผลต่อคุณภาพงานก่อสร้างของลูกค้าไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ลูกค้าจะหมดความกังวลเหล่านี้หากซื้อสินค้าตะแกรงเหล็กไวร์ของเรา เพราะตะแกรงเหล็กไวร์เมชของ สยามลวดเหล็กฯ เป็นเหล็กเต็มขนาด ได้มาตรฐาน มอก. จึงมั่นใจได้ในคุณภาพของสินค้า และ ความใส่ใจใน การผลิตในทุกขั้นตอน เพื่อให้ได้ตามมาตรฐานที่ลูกค้าต้องการ เลือกดูสินค้า: https://www.siw.co.th/th/product-detail/wire-mesh
10-03-2023
“การตอบสนองและแก้ปัญหาได้รวดเร็วคือเคล็ดลับสู่ความสำเร็จ” มาฟังแนวคิดในการดำเนินธุรกิจและประสบการณ์การทำงานร่วมกับสยามลวดเหล็กฯ จากคุณประวัติ เกลียวปิยะ (กรรมการผู้จัดการ บริษัท พี.เอ็น.ซี.เรียลเอสเตท จำกัด และ บริษัท พี.เอ็น.ซี.คอนกรีต จำกัด)
05-07-2023
How deep should the pile be drilled to ensure safety?Piles are an essential component used to support and transfer the weight and load of a building to the ground. The load transfer of a pile occurs through the frictional resistance between the pile surface and the surrounding soil or through direct load transfer to the underlying soil or bedrock. The main purpose of using piles is to prevent the building or structure from settling or sinking into the ground. For small-scale buildings, the piles used are generally shorter in length and fewer in number. However, larger buildings may require a greater number of piles or longer piles to transfer the load to deeper layers of soil and bear a higher load capacity. If the pile extends to the level of hard soil, it can directly transfer the load from the building to the hard soil layer. How do piles bear the load?Piles bear the load through two main types of forces: "skin friction" and "end bearing." 1. Skin Friction: This force is generated by the frictional resistance between the pile surface and the surrounding soil. The magnitude of this force depends on the type of soil (each soil type has different skin friction properties) and the characteristics of the pile surface. 2. End Bearing: This force occurs at the pile tip, where the pile rests on a firm soil layer. The magnitude of this force depends on the type of soil, such as the presence of voids between soil particles. Soils with more voids have a lower load-bearing capacity, while compacted sands have a higher load-bearing capacity. In general pile design, for skin friction piles, the focus is on the size and length of the pile to generate sufficient lateral friction to support the applied load. For end bearing piles, the design aims to have the pile sit on a compacted sand layer. Types of piles used in construction can be broadly categorized into three main types based on their manufacturing and usage characteristics: 1. Spun Piles: These piles are produced by spinning concrete in a mold at high speed. This process results in a dense and strong concrete core with embedded steel reinforcement. Spun piles can be driven or drilled and are suitable for high-rise buildings that require strength to withstand wind loads and earthquakes. 2. Bored Piles: Bored piles are constructed by drilling a hole and then placing steel reinforcement and concrete into the drilled hole. They come in various lengths and sizes as specified. Bored piles are suitable for projects that require high strength and load capacity. 3. Prestressed Concrete (PC) Piles: PC piles are manufactured by placing concrete into a mold that contains prestressed steel wires or strands. The concrete is then compressed to enhance its strength. PC piles are used in construction projects that require high strength and durability in various environmental conditions. Siam Wire Industries (SIW) offers PC Wire and PC Strand, which are the primary components used in the production of prestressed concrete piles. SIW has gained recognition in over 50 countries worldwide and provides post-sales services, including on-site wire pulling tests for customers. These services ensure customer confidence in using SIW's prestressed wire products. PC Wire: [Link to SIW's PC Wire product page] (https://www.siw.co.th/en/product-detail/pc-wire) PC Strand: [Link to SIW's PC Strand product page] (https://www.siw.co.en/th/product-detail/pc-strand)
08-06-2022
SIW ทำธุรกิจด้วยหลัก ESG ที่พาองค์กรเติบโตและยั่งยืน มีการดำเนินการในด้าน Environment, Social and Governance (ESG) ตลอดระยะเวลาการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ การดำเนินกิจกรรมด้านสังคม Social เพื่อแสดงความมุ่งมั่นเรื่องความรับผิดชอบต่อสังคมทั้งภายในและภายนอกองค์กรโดยบริษัทได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 45001, TIS 18001, มรท 8001 และ CSR-DIW ตลอดถึงส่งเสริมการมีส่วนร่วมและการปรึกษาหารือของพนักงานและชุมชน มีการดำเนินงานการให้ปรับปรุง-เสริมสร้างความตระหนักความปลอดภัยแก่พนักงาน การให้ความรู้ให้แนวทางการดำเนินธุรกิจกับผู้ประกอบการและชุมชน การบริจาคให้กับการสร้างห้องสมุด การมอบทุนการศึกษาให้กับสถานศึกษาที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกับบริษัท การสร้างกิจกรรมสำนึกบ้านเกิดของพนักงาน ในด้านสิ่งแวดล้อม Environment บริษัทได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 14001, ISO 50001, Product carbon footprint label และ Environmental Product Declarations (EPD) โดยในทุกปีบริษัทมีการจัดทำมาตรการด้านสิ่งแวดล้อม มาตรการอนุรักษ์พลังงาน มาตรการ Low Emission Support Scheme (LESS) เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการดำเนินธุรกิจ ตลอดถึงมุ่งมั่นการลดภาวะโลกร้อนอันเกิดจากก๊าซเรือนกระจก สำหรับในด้านสิ่งแวดล้อมนี้บริษัทอยู่ระหว่างขยายความสามารถดำเนินโครงการ Carbon Border Adjustment Mechanism (CBAM) ในด้านธรรมาภิบาล Governance บริษัทได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 9001, ISO/IEC 17025, NATA-ISO/IEC 17025 และมาตรฐาน Product certificate จากแต่ละประเทศมากกว่า 25 มาตรฐานการรับรองผลิตภัณฑ์ อาทิ TIS, UK CARES, DCL, ASTM, JIS, MS, NZ และ AS เป็นต้น เป็นการสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า คู่ค้า และหน่วยงานราชการ ว่าบริษัทสามารถผลิตสินค้าและให้บริการอย่างมีคุณภาพสอดคล้องมาตรฐานสากล ส่งผลให้บริษัทได้รับความไว้วางใจกับคู่ค้ามากกว่า 50 ประเทศจากทั่วโลก และบริษัทมีการดำเนินโปรแกรมการพัฒนาความรู้ ความสามารถของพนักงานอย่างเป็นรูปธรรมและเป็นระบบผ่านกระบวนการ QCC ซึ่งในทุกปีพนักงานของบริษัทที่ผ่านการพัฒนาความรู้ QCC นี้ สามารถส่งผลงานเข้าประกวดนำเสนอผลงานในระดับประเทศ และนานาชาติ แล้วสามารถได้รับรางวัลระดับ Gold ได้ทุกปี เป็นที่ภาคภูมิใจของพนักงาน ครอบครัวของพนักงาน และองค์กร
08-06-2022
เหล็กกล้าที่มีส่วนผสมของธาตุคาร์บอนเป็นธาตุหลัก แบ่ง เป็น 3 ประเภท ดังนี้ 1. เหล็กกล้าคาร์บอนต่ำ (Low Carbon Steel) เป็นเหล็กที่มีปริมาณคาร์บอนไม่เกิน 0.25% นอกจากคาร์บอนแล้ว ยังมีธาตุอื่นผสม- อยู่ด้วย เช่น แมงกานีส ซิลิคอน ฟอสฟอรัส และกำมะถัน แต่มีปริมาณน้อยเนื่องจาก หลงเหลือมาจากกระบวนการผลิต เหล็กประเภทนี้ถูกนำไปใช้ในอุตสาหกรรม และใน ชีวิตประจำวันไม่ต่ำกว่า 90% เนื่องจากขึ้นรูปง่าย เชื่อมง่าย และราคาไม่แพง โดยเฉพาะเหล็กแผ่นมีการนำมาใช้งานอย่างกว้างขวาง เช่น ตัวถังรถยนต์ ชิ้นส่วนยานยนต์ต่างๆ กระป๋องบรรจุอาหาร สังกะสีมุงหลังคา เครื่องใช้ในครัวเรือน และในสำนักงาน 2. เหล็กกล้าคาร์บอนปานกลาง (Medium Carbon Steel) เป็นเหล็กที่มีปริมาณคาร์บอน 0.2-0.5% มีความแข็งแรงและความเค้นแรงดึงมากกว่า เหล็กกล้าคาร์บอนต่ำ แต่จะมีความเหนียวน้อยกว่า สามารถนำไปชุบแข็งได้ เหมาะกับ งานทำชิ้นส่วนเครื่องจักรกล รางรถไฟ เฟือง ก้านสูบ ท่อเหล็ก ไขควง เป็นต้น 3. เหล็กกล้าคาร์บอนสูง (High Carbon Steel) เป็นเหล็กที่มีปริมาณคาร์บอน 0.5 - 1.5% มีความแข็งความแข็งแรงและความเค้น- แรงดึงสูง เมื่อชุบแข็งแล้วจะเปราะ เหมาะสำหรับงานที่ทนต่อการสึกหรอ ใช้ในการทำ เครื่องมือ สปริงแหนบ ลูกปืน เป็นต้น สินค้าที่ สยามลวดสามารถผลิตได้นั้น มีเหล็กกล้าคาร์บอนต่ำ หรือ (Low Carbon Steel) 1.ลวดเหล็กคาร์บอนต่ำ หรือที่เรียกว่า (Cold drawn) คือเหล็กที่ผลิตมาจากเหล็กลวดคาร์บอนต่ำ (Low Carbon Wire Rods) โดยผ่านกระบวนการนำเหล็กกล้าคาร์บอนต่ำมา รีดลดขนาดโดยการรีดเย็น จนเป็นผลิตภัณฑ์ลวดเหล็กกล้าคาร์บอนต่ำ มักใช้กับงานผูกเหล็ก ตะปู ตาข่าย และ ทำปลอกเสาเข็ม และสยามลวด นั้นสามารถผลิตได้ตั้งแต่ขนาด 6-12 mm. น้ำหนักต่อม้วนตั้งแต่ 250 kg - 2500 kg 2.เหล็กกล้าคาร์บอนสูง (High Carbon Steel) ที่เรียกว่า ลวดเหล็กกล้าดึงเย็นเสริมคอนกรีตอัดแรง หรือ PC WIRE , PC STRAND นั่นเอง มักใช้กับงานแผ่นพิ้น เสาเข็ม เสาไฟฟ้า หมอนรองรางรถไฟ และคานสะพาน เป็นต้น และสามารถผลิต PC WIRE ได้ตั้งแต่ขนาด 4-9 mm. และ PC STRAND ขนาด 9.3 , 9.5 , 12.7 และ 15.2 mm.
30-05-2023
ในการก่อสร้างอาคารในปัจจุบัน เราสามารถเห็นการใช้งานตะแกรงเหล็กไวร์เมช มาทดแทนการใช้เหล็กเส้นในส่วนของเหล็กเสริมล่าง ได้มากขึ้นเรื่อยๆ เช่น พื้นโรงงาน , พื้น Post-tension และถนนคอนกรีต เป็นต้นฯ เนื่องจากตะแกรงเหล็กไวร์เมช สามารถประหยัดเวลาและต้นทุนได้มากกว่าเป็นไหนๆ แต่ในการหันมาใช้ตะแกรงเหล็กไวร์เมช แทนเหล็กผูกก็อาจมีวิธีการใช้งานและหลักการคำนวณบางอย่างที่แตกต่างกัน หนึ่งในเรื่องที่หลายคนสงสัยมากคือ “การต่อทาบตะแกรงเหล็กไวร์เมช” ควรมีระยะเท่าไหร่จึงจะเหมาะสมและไม่ก่อให้เกิดปัญหาในภายหลัง การต่อทาบตะแกรงเหล็กไวร์เมช ตะแกรงเหล็กที่ใช้เป็นเหล็กเสริมในแผ่นพื้น จะต้องมีการต่อทาบ ดังนี้ 1. ควรหลีกเลี่ยงการต่อลวดโดยใช้วิธีทาบ ณ บริเวณที่มีหน่วยแรงสูงสุด (ตำแหน่งที่ลวดพื้นรับแรงเกินกว่าครึ่งของหน่วยแรงที่ยอมให้) แต่ถ้าจำเป็นจะต้องใช้การต่อวิธีนี้ ต้องมีระยะทาบของตะแกรงไม่น้อยกว่าระยะเรียงของเส้นลวดบวกเพิ่มอีก 5 เซนติเมตร 2. การต่อลวดตะแกรงที่รับแรงไม่เกินครึ่งหนึ่งของหน่วยแรงที่ยอมให้จะต้องมีระยะทาบไม่น้อยกว่า 5 เซนติเมตร อ้างอิง: มาตรฐานสำหรับอาคารคอนกรีตเสริมเหล็กโดยวิธีหน่วยแรงใช้งาน (วสท. 011007-19) และทางสยามลวดเหล็กฯ ก็มีตะแกรงเหล็ก ไวร์เมช ที่ผ่านมาตรฐาน มอก. 737 ตอบโจทย์เรื่องคุณภาพ, ความปลอดภัย, รวดเร็ว และยังมีบริการการออกแบบ CAD, การจัดสรรงบประมาณ, แถมมีวิศวกรให้คำปรึกษาฟรี!! ดูรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติม: https://www.siw.co.th/th/product-detail/wire-mesh
08-06-2022
พื้น Post Tension โดยทั่วไป คือระบบพื้นคอนกรีตที่มีเหล็กเส้นที่รับแรงดึงได้มาก ๆ เสริมอยู่ภายใน และทำการดึงเส้น เหล็กนั้นให้ตึงเมื่อหล่อคอนกรีตเสร็จแล้ว เพื่อเพิ่มความเข้มแข็งของพื้น การที่มีเหล็กแรงดึงดูดเสริมและดึงอยู่ในพื้นคอนกรีตนี่เอง ทำให้โครงสร้างชนิดนี้มีหน้าตัดที่บางลง และไม่จำเป็นต้องมีคานมารับหัวเสาเพื่อการถ่ายน้ำหนัก จากพื้นสู่เสาด้วย ราคาค่าก่อสร้างหลายอาคารก็ถูกลง และยังลดความสูงระหว่างชั้นได้ด้วย พื้นระบบ Post Tension คือพื้นคอนกรีตเสริมเหล็กอัดแรง เพื่อให้โครงสร้างสามารถรับแรงได้มากกว่าปกติ จนทำให้โครงสร้าง พื้นเห็นเป็นเพียงแผ่นคอนกรีตบาง ๆ (20-28 ซม.) ไม่มีคานมารับตามช่วงเสา ทำให้พื้นระบบ Post Tension (สะดวกกว่าระบบมีคาน) และลดค่าใช้จ่ายในงานโครงสร้างได้ พอสมควรทีเดียว เนื่องจากพื้น Post-Tension เป็นระบบพื้นซึ่งดึงลวดอัดแรง จึงจำเป็นต้องร้อยลวดอัดแรงไว้ในท่อ Galvanized เพื่อไม่ให้คอนกรีตจับตัวกับลวดอัดแรง สามารถแบ่งออกเป็น 2 ระบบ ที่มีลักษณะต่างกันดังนี้ 1. Bonded System เป็นระบบมีแรงยึดแหนี่ยว ระหว่าง PC Strand กับพื้นคอนกรีตโดยหุ้มด้วยท่อเหล็กที่ขึ้นเป็นลอน เพื่อช่วยในเรื่องของแรงยึดเหนี่ยว ภายหลังเมื่อทำการอัดน้ำปูนเข้าไปให้เต็มท่อหลังการดึงลวด (GROUTING) เพื่อให้จับยึดระหว่าง PC Strand กับท่อเหล็ก จะใช้กับอาคารที่พักอาศัย ห้างสรรพสินค้า สำนักงาน และโครงสร้างขนาดใหญ่ 2. UnBonded System เป็นระบบไม่มีแรงยึดแหนี่ยว ระหว่าง PC Strand กับพื้นคอนกรีต แต่จะยึดที่บริเวณหัว Anchorage ที่ปลายพื้นทั้ง 2 ข้างเท่านั้น โดยใช้ ( PE unbounded PC strand )เป็นตัวยึดเหนี่ยว ระบบนี้ไม่เหมาะสำหรับอาคารที่จะมีการเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์การใช้ งานในอนาคต แต่จะนิยมใช้กับระบบพื้นที่เป็น อาคารที่จอดรถ หรืออาคารขนาดเล็กที่มักจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงการใช้งานที่ตามมาในอนาคต ข้อดีของ ระบบพื้นพื้น Post Tension รวดเร็วกว่า: สามารถก่อสร้างได้อย่างรวดเร็วเมื่อเทียบกับระบบพื้นโครงสร้างเสริมเหล็กทั่วไป คุ้มค่ากว่า : ออกแบบโดยคำนึงถึงความประหยัดของโครงสร้างและค่าก่อสร้างโดยรวม อาทิเช่นแรงงาน ไม้แบบ คอนกรีต เป็นต้น
01-09-2022
SIW's adds another testing machine to improve the quality of the product before it reaches the end customer. Our lastest source is a Fatigue testing machine from Germany with- a testing capacity of 72 Pcs/Year- 500kN maximum load for diameters from 4 - 30 mm (*Available up size if change the grip)- frequency of120 Hz for PC Wire, PC StrandRebar for standard : LNEC E 452, ISO15630-3, prEN10138 etc.
We are relentless in our pursuit for excellence in product quality and innovation. We take pride in being able to anticipate your needs and provide tailored solutions for each of your requirements. We strive to exceed expectations.